คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3047 - 3048/2531

จำเลยออกเช็คให้แก่โจทก์โดยมีข้อตกลงกันไม่ให้โจทก์แข่งขันประมูลงานก่อสร้างของทางราชการกับจำเลย ข้อตกลงดังกล่าวย่อมขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน หนี้ตามเช็คที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงเช่นนั้นเป็นโมฆะ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบ ไม่ใช่ผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้อง

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า จำเลยออกเช็คตามฟ้องให้โจทก์ เนื่องจากมีข้อตกลงไม่แข่งขันกันในการประมูลงานก่อสร้างของทางทหาร และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาได้แต่เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๐ ที่โจทก์ฎีกาว่า เช็คตามฟ้องเป็นเช็คที่จำเลยออกชำระหนี้ให้แก่โจทก์นั้น เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาในปัญหาข้อนี้มาด้วย ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยให้ ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คตามฟ้องโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนนั้น เป็นการฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามฎีกา แต่คดีที่ฎีกาได้เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๒ เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่า เช็คตามฟ้องเป็นเช็คที่จำเลยออกให้แก่โจทก์เนื่องจากมีข้อตกลงไม่แข่งขันกันในการประมูลงานก่อสร้างของทางราชการ การกระทำของโจทก์จำเลยย่อมเป็นการลวงให้ทางราชการหลงเชื่อว่า มีการประมูลสู้ราคากันจริง แต่ความจริงเป็นเรื่องตกลงสมยอมกันโดยจำเลยจะจ่ายเงินตอบแทนให้แก่โจทก์และบุคคลอื่นผู้ร่วมประมูล เป็นการร่วมกันเอารัดเอาเปรียบทางราชการโดยไม่สุจริต ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย ข้อตกลงดังกล่าวขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน หนี้ตามเช็คที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงอันมีวัตถุประสงค์เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนเช่นนี้ ตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๓ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คตามฟ้องโดยชอบ ไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง

พิพากษายืน

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

บทความที่น่าสนใจ

-การด่าตำรวจจราจรว่ารับสินบนจะมีผิดความหรือไม่

-ด่ากันทางโทรศัพท์

-ส่งมอบโฉนดให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นหลักประกันต่อมาไปแจ้งความว่าโฉนดหายมีความผิดต้องโทษจำคุก

-การปลอมเป็นเอกสารจำเป็นต้องมีเอกสารที่แท้จริงหรือไม

-การลงลายมือแทนกันเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร

-เมื่อครอบครองปรปักษ์ที่ดินแล้ว ต่อมาเกิดที่งอกใครเป็นเจ้าของที่งอกนั้น

-ซื้อที่ดินในหมู่บ้านจัดสรร แล้วไปซื้อที่ดินข้างนอกที่ติดกับหมู่บ้าน
เพื่อเชื่อมที่ดินดังกล่าวเข้ากับที่ดินในหมู่บ้าน

-ขายฝากที่ดินต่อมาผู้ขายได้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดิน แต่ไม่ได้ไถ่ภายในกำหนดบ้านเป็นของใคร

-ไม่ได้เข้าร่วมในการแบ่งกรรมสิทธิ์รวม

-ปลูกต้นไม้ในทางสาธารณะสามารถฟ้องให้รื้อถอนออกไปได้

-การทำสัญญายอมในศาลโดยการครอบครองในป่าสงวน

-เจ้าของรวมนำโฉนดที่ดินไปประหนี้เงินกู้ผลเป็นอย่างไร

-การต่อเติมภายหลังปลูกสร้างโรงเรือนรุกล้ำ

-คนต่างด้าวก็สามารถครอบครองปรปักษ์ได้

-ผู้รับการให้ด่าว่าผู้ให้ ผู้ให้สามารถเพิกถอนการให้ได้

-ยกที่ดินให้แล้ว แต่มีสิทธิเก็บกินโดยไม่ได้จดทะเบียนผลเป็นอย่างไร

-ด่าว่า จัญไร ถอนการให้ได้

-ฟ้องเรียกค่าขาดกำไร เป็นค่าเสียหายพฤติการณ์พิเศษ

-หนังสือทวงถามส่งไปที่บ้านตามภูมิลำเนาอ้างว่าไม่ได้รับได้หรือไม่

-การยินยอมของเด็กที่ให้ล่วงละเมิดทางเพศ ยังคงเป็นความผิดฐานละเมิด

-ดูหมิ่นเรียกค่าเสียหายได้เท่าไหร่

-ตั้งใจไปกู้แต่เจ้าหนี้ให้ทำสัญญาขายฝากผลเป็นอย่างไร

-คำมั่นจะให้เช่าเป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว

-การโอนสิทธิการเช่าทำได้หรือไม่